หน้าแรก > ข่าวประชาสัมพันธ์ > วันพุธที่ 18 กันยายน 2567 ที่ประชุม กสทช.ได้มีมติเห็นชอบประกาศเชิญชวนขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่
บันทึกโดย :นาย อรุณ มหาไพบูลย์ (เขต33 พิษณุโลก)
วันที่บันทึก :24/09/2567
วันพุธที่ 18 กันยายน 2567 ที่ประชุม กสทช.ได้มีมติเห็นชอบประกาศเชิญชวนขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ระบบเอฟเอ็ม สำหรับให้บริการกระจายเสียงประเภทบริการสาธารณะและบริการชุมชน ตามแผนความถี่วิทยุกิจการกระจายเสียงระบบเอฟเอ็ม
วันพุธที่ 18 กันยายน 2567 ที่ประชุม กสทช.ได้มีมติเห็นชอบประกาศเชิญชวนขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ระบบเอฟเอ็ม สำหรับให้บริการกระจายเสียงประเภทบริการสาธารณะและบริการชุมชน ตามแผนความถี่วิทยุกิจการกระจายเสียงระบบเอฟเอ็มกำลังส่งไม่เกิน 1 กิโลวัตต์ ที่ กสทช. ได้เห็นชอบไปก่อนหน้านี้ รวมทั้งได้กำหนดสัดส่วนในการอนุญาตครั้งนี้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ตามที่กฎหมายกำหนด โดยแบ่งเป็นประเภทสาธารณะร้อยละ 20 และประเภทชุมชนร้อยละ 5 และที่เหลือเป็นประเภทกิจการทางธุรกิจ ทำให้มีคลื่นความถี่ที่สามารถจัดสรรในครั้งนี้สำหรับบริการสาธารณะและชุมชนได้ไม่ต่ำกว่า 838 คลื่นความถี่ ในขณะที่ปัจจุบันมีสถานีวิทยุประเภทสาธารณะและชุมชนอยู่เพียง 706 สถานี ทำให้สามารถรองรับผู้ประกอบการรายใหม่ได้ อย่างไรก็ตามผู้ขอรับใบอนุญาตต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตการให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบการกระจายเสียง พ.ศ.2567 ที่ กสทช. ได้อนุมัติไปก่อนหน้านี้
พลอากาศโท ดร.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม แห่งชาติ (กสทช.) ชี้แจงเพิ่มเติมถึงเงื่อนไขสำหรับกิจการบริการสาธารณะและการบริการชุมชน นั้น ต้องมีคุณสมบัติ ตามนี้ คือ
      1. ประเภทบริการสาธารณะ ต้องมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการให้บริการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้
            1.1 ประเภทที่หนึ่ง เพื่อการส่งเสริมความรู้การศึกษา ศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม การเกษตร และการส่งเสริมอาชีพอื่นๆ เช่น สุขภาพ กีฬา หรือการส่งเสริมคุณภาพชีวิต
            1.2 ประเภทที่สอง เพื่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยสาธารณะ
            1.3 ประเภทที่สาม เพื่อการกระจายข้อมูลข่าวสารเพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างรัฐบาลกับประชาชน และรัฐสภากับประชาชน การกระจายข้อมูลข่าวสารเพื่อการส่งเสริมสนับสนุนในการเผยแพร่และให้การศึกษาแก่ประชาชนเกี่ยวกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นต้น
     2. ประเภทบริการชุมชน ต้องมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการบริการสาธารณะ ซึ่งเป็นประโยชน์ตามความต้องการของชุมชนหรือท้องถิ่นที่รับบริการ

           โดยผู้รับใบอนุญาตประเภทบริการสาธารณะ 1 นิติบุคคล มีจำนวนใบอนุญาตได้มากกว่า 1 คลื่นความถี่แต่ประเภทชุมชน 1 นิติบุคคล มีจำนวนใบอนุญาตที่ได้รับอนุญาตได้ 1 คลื่นความถี่ และอายุใบอนุญาตจะสิ้นสุดลงในวันที่ 3 เมษายน 2572 หรือตามที่ กสทช. กำหนดแต่ไม่เกิน 5 ปี นับแต่วันที่อนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ โดยที่ผู้ประสงค์จะขอรับใบอนุญาตต้องยื่นคำขอรับอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และชำระค่าธรรมเนียมการขออนุญาตผ่านระบบการยื่นคำขอรับอนุญาตทางอิเล็กทรอนิกส์ในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(e-BCS)(https://bcsservices.nbtc.go.th/eservices/#/auth/ebcsmain) โดยสำนักงาน กสทช. จะประกาศเผยแพร่กำหนดช่วงวัน และเวลาที่ให้ผู้ประกอบกิจการที่สนใจเข้าร่วมยื่นคำขอรับใบอนุญาต และวันที่จะให้ทดลองทดสอบระบบการยื่นคำขอรับใบอนุญาตให้ทราบล่วงหน้าเป็นการทั่วไป เมื่อประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการกระจายเสียงได้ประกาศบังคับใช้ในราชกิจจานุเบกษาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่าภายในเดือนตุลาคม 2567 นี้ 

0111.jpg

     “การออกประกาศเชิญชวนการขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ระบบเอฟเอ็ม สำหรับให้บริการกระจายเสียงในครั้งนี้ ก็เพื่อให้ผู้ที่ประสงค์จะประกอบกิจการกระจายเสียงระดับท้องถิ่นประเภทบริการสาธารณะและบริการชุมชน ทั้งรายเดิมที่ได้ทดลองออกอากาศมามากกว่า 10 ปี แต่ยังไม่เคยได้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่แบบเป็นทางการ รวมทั้งรายใหม่ที่ประสงค์จะประกอบกิจการประเภทนี้ ได้เข้าสู่ระบบการอนุญาตที่เป็นมาตรฐานสากล โดยมีวิธีการอนุญาตที่ไม่ต้องใช้วิธีการประมูลแต่จะใช้วิธีการเปรียบเทียบคุณสมบัติตามที่ประกาศฯ กำหนด และเมื่อได้รับการอนุญาต กสทช. จะสามารถส่งเสริมและสนับสนุนได้อย่างเต็มที่ แต่หากผู้ประกอบการรายเดิมไม่แจ้งความประสงค์ตามเงื่อนไขและวันเวลาที่กำหนดแล้ว ผู้ประกอบการรายนั้นจะต้องสิ้นสุดการออกอากาศในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 นี้ สำหรับประกาศเชิญชวนการขอรับใบอนุญาตกระจายเสียงในประเภทธุรกิจ ที่กฎหมายบังคับให้ใช้วิธีการประมูลนั้น จะรีบเร่งรัดให้ออกได้ภายในเดือนตุลาคมปีนี้ เช่นกัน” พลอากาศโท ดร.ธนพันธุ์ฯ กล่าวปิดท้าย

ที่มา  https://www.nbtc.go.th/News/Information/67606.aspx
จำนวนผู้เข้าชม

สำนักงาน กสทช. เขต 33 (พิษณุโลก)   

ที่ตั้ง : 190 ม. 7 (บ้านคุ้งหม้อ) ต. ปากโทก อ. เมือง จ. พิษณุโลก 65000
ที่อยู่รับ-ส่งจดหมาย/พัสดุไปรษณีย์ : ตู้ ปณ. 139 ปณจ. พิษณุโลก อ. เมือง จ. พิษณุโลก 65000

email : [email protected] (สารบรรณอิเล็กทรอนิกส์)

"สายด่วน กสทช. 1200 (โทรฟรี)"  ช่องทางการรับเรื่องสอบถามและร้องเรียนจากประชาชนของศูนย์ Call Center 1200

โทรศัพท์ : 0 5524 5151-2  โทรสาร : 0 5524 5150

งานใบอนุญาต โทรฯ 0 2670 8888  ต่อ  4629, 4634 ,4635   
งานตรวจสอบและกำกับดูแล โทรฯ 0 2670 8888 ต่อ 4633 , 4637 ,4638 
งานตรวจสอบเนื้อหาและคุ้มครองผู้บริโภค โทรฯ 0 2670 8888 ต่อ 4632, 4635 
งานอำนวยการ โทรฯ 0 2670 8888 ต่อ 4626, 4630    
พิกัดที่ตั้ง : Lat : 16.902877  ํN      Long: 100.271843  ํE  หรือ
            Lat : 16°54′10.36″  ํN  Long: 100°16′18.63″  ํE 
>> แผนที่/คลิกเพื่อนำทาง Untitled2-(2).png  <<