🚨👮 วันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 สำนักงาน กสทช. ร่วมกับ สคส. บูรณาการความร่วมมือในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์ของประชาชน
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 สำนักงาน กสทช. ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) ลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) ด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือและเพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับดูแลที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ภายใต้กรอบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ศาสตราจารย์คลินิก นพ. สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. กล่าวว่า ปัจจุบันบริการโทรคมนาคม
เข้ามามีบทบาทกับชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการสื่อสารเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาบริการร่วมกับกิจการอื่นด้วย เช่น บริการโทรเวชกรรม (Telemedicine) ที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบริการทางสาธารณสุข หรือบริการพิสูจน์ยืนยันตัวตน (Digital ID) ที่อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและลดภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นในการทำธุรกรรมต่างๆ ทั้งกับภาครัฐและภาคเอกชน และในการให้บริการโทรคมนาคม ผู้รับใบอนุญาตจำเป็นต้องอาศัยการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ดังนั้น สำนักงาน กสทช. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแล จึงได้ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิในความเป็นส่วนตัวและเสรีภาพในการสื่อสารถึงกันโดยทางโทรคมนาคม อันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้
ตามลักษณะการหลอมรวมการให้บริการ การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการอาจไม่จำกัดอยู่เพียงเพื่อการให้บริการโทรคมนาคมเท่านั้น แต่ผู้ใช้บริการอาจให้ความยินยอมให้ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตนไปยังภาคอุตสาหกรรมอื่น (Cross-sector Data Sharing) ซึ่งเป็นการดำเนินการภายใต้หลักสมดุลการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกับสิทธิขั้นพื้นฐาน (Data Protection in Balance with Other Fundamental Rights) โดยกฎหมายรับรองสิทธิของผู้ใช้บริการซึ่งมีอยู่แล้วในข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง ให้ผู้ใช้บริการสามารถใช้สิทธิได้อย่างอิสระ ผ่านการอนุญาตหรือการให้ความยินยอมให้ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง โดยการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างภาคอุตสาหกรรมได้เริ่มดำเนินการแล้วในหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นความท้ายทายของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ที่จะไม่จำกัดอยู่เพียงเฉพาะหน่วยงานกำกับดูแลหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งอีกต่อไปแต่จะต้องอาศัยความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลในแต่ละภาคอุตสาหกรรม และหน่วยงานกลางด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นนิมิตหมายสำคัญของการประสานความร่วมมือกันของสองหน่วยงานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมของประชาชน
นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ได้มีผลใช้บังคับทั้งฉบับมาตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 และด้วยบทบัญญัติแห่งกฎหมาย แสดงให้เห็นว่ากลไกในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ไม่สามารถดำเนินการภายใต้กฎหมาย ประกาศ ระเบียบ และแนวปฏิบัติของ กสทช. หรือสำนักงาน กสทช. เพียงอย่างเดียวได้แต่จะต้องพิจารณา พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ และกฎหมายลำดับรองตาม พ.ร.บ. ดังกล่าว รวมทั้งประกาศ ระเบียบ และแนวปฏิบัติของคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลควบคู่กันไป จึงเป็นที่มาของการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างสำนักงาน กสทช. และ สคส. ในครั้งนี้